ชื่อมิชลินกับคนใช้รถ สำหรับหลายคนมันเป็นเครื่องหมายการค้าอันดับ 1 ในวงการยางรถยนต์ ถ้าใครสักคนจะเดินเข้าร้านยางแล้วบอกว่าจะเอายางดีสุดแบบไม่ต้องคิดเรื่องรายละเอียดอื่นๆ ยังไงคำตอบก็ย่อมเป็นมิชลิน จะออกรถใหม่ หลายๆ ยี่ห้อ ก็ติดมิชลินมาให้ (คือเข้าใจตรงกัน ว่าออกรถรุ่นเดียวกันแต่คนละล็อตก็อาจจะได้ยี่ห้ออื่นเช่นกัน) คนใช้รถส่วนใหญ่ ผมว่าน่าจะเคยใช้ยางมิชลินกับรถตัวเองมาแล้ว เพราะมันเป็นยางยี่ห้อหลักแถวหน้าที่มีอยู่ไม่กี่ยี่ห้อ มิชลินเหมือนแฟนที่ตัดกันไม่ขาด รู้จักกันดี มีรักมีเกลียด มีคบมีเลิกคบ ตัดกันไม่เคยขาด ตอนนี้ หลังจากเลิกคบไปพักนึง ผมก็กลับมาคบอีกแล้ว เพราะมิชลินส่งยาง Michelin Primacy 4 มาให้ทดสอบกับ Camry Hybrid คันเดิม อายุใกล้ 7 ปี เลขไมล์ 5 เพิ่งเลยหมื่นมาหน่อยๆ มิชลินรุ่นหลังสุดที่ใช้ ก็ไม่นาน กับ Michelin Primacy 3st มาคราวนี้ Michelin Primacy 4 กับยางขอบ 17 ไซส์ 215-50-17 จับคู่กับ Camry Hybrid เดิมๆ ทุกกระเบียด จะเป็นยังไงบ้าง ![]() ![]() FIRST IMPRESSION ถอดยางเดิมที่มีความนุ่ม เงียบ เกาะ อายุ 1 ปี วิ่งไม่ถึง 5 พันโลออก มาใส่ Michelin Primacy 4 ปุ๊บ ... อื้มม... มันจิกพื้นถนนดีแฮะ Primacy เป็นยางตระกูลสำหรับรถยนต์นั่ง สไตล์ comfort เน้นนุ่ม สบาย ใช้บนถนนดำ ความเด่นที่ผ่านๆ มาคือความนุ่มเงียบ แม้อายุยางจะเพิ่มขึ้น ความเงียบก็ยังไม่หายไปไหน เพราะเนื้อยางจะไม่แข็งขึ้นเหมือนหลายๆ ยี่ห้อที่แม้จะนุ่มเงียบในช่วงแรก แต่พ้นปี หรือสองปี เสียงก็จะตามมา แต่ยางตระกูล Primacy จากประสบการณ์ที่เคยใช้มา ผ่านไปสองปี หรือแม้กระทั่ง 3 ปี ก็ยังเงียบ นุ่มแทบจะไม่ต่างกับปีแรก สัมผัสแรกจาก Michelin Primacy 4 คือความว่องจากการจิกพื้นถนนที่ทำให้รู้สึกว่ารถมันไปได้เร็วขึ้นกว่าเดิมโดยใช้ความพยายามน้อยลง และขณะเดียวกันก็รู้สึกถึงความ float ของยางเหมือนกับกำลังวิ่งแบบลอยๆ จากพื้นถนน เสียงยางบดถนนส่งผ่านเข้ามาได้น้อยมากเมื่อเทียบกับยางที่เคยใช้มา เงียบ และ จิก! ![]() จากถนนในเมืองรถแน่นๆ แถวเลียบทางด่วน วิ่งไปทำงานเส้นเพชรบุรีตัดใหม่ ทะลุซอยพร้อมพงษ์ที่พื้นถนนไม่เคยเรียบจริงๆ ออกสุขุมวิท และอโศก Michelin Primacy 4 ทำให้เกิดความพึงพอใจ มากกว่าที่คาด! มากกว่ามาก!! Michelin Primacy 4 ทำให้ขับรถในเมืองได้สบายขึ้น ดอกยางลายธรรมดาๆ เรียบๆ แต่ตะกุยพื้นถนนไปแบบย่องเบา และรีดผ่านรอยต่อของถนนซีเมนต์ได้แบบเนียนๆ เจอพื้นแตกดักยางรถแม้จะดุ้งตามสภาพถนน แต่ก็ไม่ตะเตือนไต .. ไฮโซใช้ได้เลย ความจิกของ Michelin Primacy 4 ยังคงสร้างความประทับใจต่อเมื่อขับบนความเร็วสูงขึ้นในระดับ 100-120 กม./ชม. ความลอยแบบ floating ยังเป็นคาแร็กเตอร์ของยางที่ส่งต่อมาสู่ความเร็วในย่านสูงขึ้น ลอยแบบดีๆ ลอยแบบที่ยังคงรักษาความคมของยางเมื่อเปลี่ยนช่องจราจร และคมเมื่อเข้าโค้งอ่อนๆ ที่ 130 กม./ชม. แบบไม่มีอาการวอกแวก ฟีดแบ็คจากพื้นถนนดีมาก รู้สึกเลยว่ายังได้อีกเยอะ! ![]() ![]() ขากลับ จากเพชรบุรีตัดใหม่ขาออก เลี้ยวขวาแยกเอกมัยจะไปขึ้นทางด่วนที่แยกพระรามเก้าจะมีทางโค้งตัวยูชันๆ มืดๆ ทุกวันจะต้องผ่อนชะลอความเร็วให้ต่ำกว่า 60 แตะเบรคนิดหน่อย และให้ดีกว่าก็ต้องอยู่เลนขวาเพื่อตัดมุมโค้งเข้าเลนซ้ายเพื่อลดแรงเหวี่ยงก่อนจะออกโค้งสวยๆ พุ่งตรงขึ้นสะพานต่อไป เป็นช่วงถนนที่ดีสำหรับการทดสอบ ผมจัดแช่รูดเลนซ้ายที่ 60 กม./ชม. และเข้าโค้งเต็มๆ คอนโทรลพวงมาลัยอย่างเดียวโดยไม่แตะเบรคลดสปีด ซึ่งยังไงเสียก็ต้องมีอาการเหวี่ยงโยนตามปกติ มีมั้ย? อาการเหวี่ยงมี แต่น้อยกว่าปกติ แต่ที่รู้สึกได้ทันทีคือ ความไม่รู้สึกถึงการบิดเอนของดอกยาง ตลอดการเข้าโค้งหักศอกตัวยูเข็มขัดยางของ Michelin Primacy 4 ตัวนี้สะกดพื้นถนนได้อยู่แบบนิ่ง และนิ่มนวล และลดแรงเหวี่ยงลงได้มาก ส่งให้รถทะยานออกจากโค้งลึกๆ ได้ว่องไวกว่า ... น่าประทับใจ.. แบบนี้ ซื้อใช้เถอะ ![]() อายุยางเปลี่ยน ความมั่นใจไม่เคยเปลี่ยน จริงๆ ที่บอกไปนั้นไม่ใช่จุดเด่นของ Michelin Primacy 4 ที่ทางมิชลินนำเสนอ เพราะสิ่งที่มิชลินบอกว่ายางรุ่นนี้เด่นดี คือการใช้งานที่ยังคงสมรรถนะการใช้งานดีแม้ยางจะมีอายุการใช้งานนานตลอดอายุของมันแม้จะใกล้หมดดอก (วัดเมื่อดอกยางเหลือ 2 มิลลิเมตร) นั่นคือความสามารถในการเบรคบนถนนเปียก การเบรคที่สั้น คือ ยางใหม่ เบรกสั้นกว่าค่าเฉลี่ยคู่แข่งชั้นนำ 2.3 เมตร ส่วนยางใกล้หมดดอก เบรกสั้นกว่าค่าเฉลี่ยคู่แข่งชั้นนำ 5.2 เมตร ![]() ![]() ![]() ขณะที่จุดขายอีกส่วน คือเรื่องของความเงียบของยาง เรื่องความเงียบของ Michelin Primacy 4 อันนี้ยอมใจ จากรุ่นก่อน Michelin Primacy 3st ผ่านไป 3 ปีแล้ว ก็ยังเงียบนุ่มที่สุด ต้องยกให้เค้าจริงๆ ส่วนความเงียบของ Michelin Primacy 4 สำหรับยางใหม่ก็เงียบและนุ่มสบายอย่างที่กล่าวถึงแล้วตอนต้น พิเศษกว่าเดิมหน่อยก็ตรงที่ความจิกถนนที่รุ่นที่แล้วไม่รู้สึก ขับแล้วรู้เลยว่านี่คือยางประหยัดน้ำมันสำหรับรถเก๋งรุ่นใหญ่เมืองๆ อย่าง Camry หรือรถในกลุ่ม D Segment อื่นๆ ใช้พลังงานน้อยลงเพื่อให้รถทะยานให้ได้ระยะเพิ่มขึ้น ![]() จุดเด่นเรื่องระยะเบรคสั้นกว่าคู่แข่งนั้น ผมตอบได้แค่กับคู่แข่งยี่ห้อ Y รุ่น A ที่เคยได้ทดสอบไปเมื่อปีก่อนที่สนามทดสอบ ตอบได้ว่า คาแร็กเตอร์การเบรคของ Michelin Primacy 4 นั้น ระยะเบรคสั้นกว่า กระชับ แต่นุ่มนวล โดยรวมมั่นใจกว่า และถ้าเทียบกับยางเก่าที่เพิ่งเปลี่ยนออกไป ระยะเบรคสั้นลงเยอะ รู้สึกเบรคง่าย ผ่อนคลายกว่า ในแง่การตั้งจุดขายทางการตลาด ผมว่า Michelin Primacy 4 เค้าใช้เวลา 3 ปีพัฒนายางรุ่นนี้มาเพื่อให้ตอบโจทย์ลูกค้าที่อยากใช้ยางที่มีชื่อชั้นมั่นใจได้ และอยากได้ยางที่พึ่งพาได้นานตลอดอายุการใช้งาน ขณะที่ราคาก็จับต้องได้ ยางขอบ 17 ไซส์มาตรฐานของ D Segment อย่าง Camry อยู่ที่เส้นละ 4 พันกว่าบาท เปลี่ยนครบชุดไม่เกิน 18,000 ก็ถือว่าไม่แพง ยิ่งได้ยางที่มีคาแร็กเตอร์เหมาะสมกับรถที่เน้นใช้ในเมือง ได้ทั้งความเงียบ นุ่มสบาย ขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกมั่นใจกับการเข้าโค้งและใช้ความเร็ว การเปลี่ยนเลน รวมถึงระยะเบรคสั้น และฟิลลิ่งดีๆ ของการเบรค ก็ยิ่งตอบโจทย์ ![]() ![]() สรุปจุดเด่นของ Michelin Primacy 4 ผมให้ตามนี้ครับ
![]() รีวิวจาก tyrereviews.co.uk ![]() ![]() ![]() |
Archiver|WAP|Camry Club Thailand 2003-2019 -:- 16 Years Anniversary
GMT+7, 20/1/2021 00:30 , Processed in 0.124474 second(s), 25 queries .
Powered by Discuz! X2.5 Patch R20130222
© 2001-2012 Comsenz Inc.