แน่นอนว่าการทำ ประกันรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็น ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 หรือชั้นใดก็ตามนั้น มันก็เพื่อบรรเทาความเสียหาบในค่าใช้จ่ายต่างๆ เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น ส่วนจะเลือกทำประกันชั้น 1 , ประกันรถยนต์ 2หรือประกันชั้น 3 นั้นมันก็อยู่ที่เราว่าจะเลือกแบบใดหรือจะไม่ทำ ประกันรถยนต์ ภาคสมัครใจนี้ก็ได้ เพราะอย่างไรเสียเราก็จะได้ความคุ้มครองจากการที่เรา ต่อพรบรถยนต์ แต่ทว่าเป็นเรื่องของความคุ้มครองในร่างกายเท่านั้น ไม่รวมถึงทรัพย์สินฉะนั้นแล้วหลาย ไปคนที่เพิ่งซื้อรถยนต์ใหม่ ๆ นั้นก็จะทำประกันภาคสมัครใจเพิ่มนั่นเองทั้งนี้แม้เราจะทำประกันแล้วแต่ทว่าเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นแล้วคู่กรณีเกิดหนีขึ้นมานั้นเราก็คงต่างตกใจทำอะไรไม่ถูกแต่เราก็อยากจะบอกไว้ว่า สิ่งที่สำคัญคือ มีสติ แล้วทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดี ดังนั้นในวันนี้เราจึงมีวิธีการปฏิบัติตัวเวลาที่เราเกิดอุบัติเหตุขึ้นแล้วคู่กรณีเกิดหนีขึ้นนั้นมาฝากเพื่อนๆ ทุกคนให้ได้รู้กันไว้ด้วย 1. เราจะต้องตั้งสติ และอย่าไปตื่นตกใจอะไร แน่นอนว่าแม้การเกิดอุบัติเหตุนั้นมันไม่ใช่เรื่องที่จะมาใจเย็นกันได้ยิ่งโดยเฉพาะกรณีที่คู่กรณีของเราหลบหนีขึ้นมาแล้วด้วย แต่ทว่าหากเราโวยวายสติหลุดไปทุกอย่างก็จะยิ่งแน่ลงไปใหญ่ฉะนั้นให้เราเรียกสติกลับมาให้เร็วที่สุด แล้วเราก็จะต้องรีบหารายละเอียดเกี่ยวกับรถคู่กรณีให้ได้มากที่สุดด้วยเช่นกันอย่างเช่น การพยายามจดจำป้ายทะเบียนรถยนต์ สี ยี่ห้อ หรือรุ่นรถให้ได้มากที่สุด โดยใครที่มีสติก็จะสามารถใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายเอาไว้ได้หรือสามารถจำได้มากที่สุดนั่นเอง 2. ให้เราทำการติดต่อบริษัทประกันภัยที่เราได้ทำประกันเอาไงซึ่งทางเจ้าหน้าที่ประกันนั้นจะเป็นผู้ประสานงานต่าง ๆ และสามารถช่วยให้คำปรึกษาเราได้ดีที่สุดว่าควรดำเนินการอย่างไรต่อไปทั้งนี้เราก็จะต้องให้ข้อมูลและให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่มากที่สุดเช่นกัน 3. และถ้าหากว่าเป็นในกรณีเสียหายน้อยก็ให้เรานำรถและกรมธรรม์ไปที่อู่ของบริษัทประกันแต่ถ้าหากว่าเกิดเป็นกรณีที่มีความเสียหายมาก ทางเจ้าหน้าที่ของบริษัทประกันจะช่วยประสานงานให้หน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือมาจัดการให้เรื่องการขนย้ายรถให้ 4. หน้าที่อีกอย่างที่สำคัญคือ ให้เราไปดำเนินการแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานและก็เพื่อดำเนินคดีด้วยซึ่งถ้าหากว่าเราแจ้งความเพื่อดำเนินคดีนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะติดตามเอาตัวผู้กระทำผิดมาเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายต่อไปซึ่งเรานั้นก็จะต้องให้ข้อมูลและให้ความร่วมมือกับทางตำรวจด้วย 5. และถ้าหากว่าเป็นในกรณีที่เราไม่มีหลักฐาน เราก็อาจจะต้องถูกเรียกเก็บค่าความเสียหายส่วนแรกก่อนซึ่งในกรณีนี้นั้นมันเป็นการแสดงถึงเจตนาที่จะยืนยันว่าเราได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุจริงและความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้เกิดจากกรณีจงใจอื่น ๆแต่หากว่าเราสามารถพิสูจน์ได้ว่า มีคู่กรณีค่าใช้จ่ายส่วนนี้ก็จะไม่ต้องเสียนั่นเอง
|